
เส้นพลาสติกพิมพ์ 3 มิติ ที่นิยมใช้กัน มีอะไรบ้างและเหมาะกับงานแบบไหน?
ในโลกของการพิมพ์ 3 มิติแบบเส้น (FDM) การเลือกใช้วัสดุหรือเส้นใย (Filament) ที่เหมาะสมเป็นหัวใจสำคัญที่จะกำหนดคุณภาพและความสำเร็จของชิ้นงาน การทำความเข้าใจคุณสมบัติเฉพาะของเส้นพลาสติกแต่ละประเภทจะช่วยให้ผู้ใช้งานตั้งแต่ระดับเริ่มต้นจนถึงระดับมืออาชีพสามารถสร้างสรรค์ชิ้นงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและตรงตามวัตถุประสงค์ที่ต้องการ
1. เส้น PLAและ PLA+ (Polylactic Acid): ตัวเลือกแรกสำหรับมือใหม่
PLA เป็นเส้นใยที่ได้รับความนิยมสูงสุดในตลาดด้วยเหตุผลหลายประการ โดยเฉพาะคุณสมบัติที่พิมพ์ง่ายและเป็นมิตรกับผู้ใช้งาน จุดเด่นของ PLA คือ:
- ความง่ายในการพิมพ์: ไม่ต้องการฐานพิมพ์ทำความร้อนหรือตู้ครอบ อุณหภูมิการพิมพ์ค่อนข้างต่ำ (ประมาณ 190-220°C)
- เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม: ทำจากพืชธรรมชาติ ทำให้สามารถย่อยสลายได้ทางชีวภาพและไม่มีกลิ่นฉุนที่รุนแรงขณะพิมพ์
- ความแม่นยำของชิ้นงาน: มีอัตราการหดตัวต่ำมาก ทำให้ชิ้นงานไม่บิดงอและได้ขนาดตามที่ออกแบบ
- การใช้งาน: เหมาะสำหรับงานต้นแบบ (Prototype), โมเดลสำหรับโชว์, ของเล่น, และงานศิลปะที่ไม่ต้องรับแรงทางกลสูง
2. เส้น ABS (Acrylonitrile Butadiene Styrene): ความแข็งแกร่งเพื่อการใช้งานจริง
ABS เป็นพลาสติกที่คุ้นเคยกันดีในชีวิตประจำวัน เช่น เลโก้ หรือเคสอุปกรณ์ต่างๆ โดดเด่นด้วยความทนทานและคุณสมบัติเชิงกลที่ดีเยี่ยม:
- ความแข็งแรงและทนทาน: เหนียว, ทนต่อแรงกระแทก และสามารถทนอุณหภูมิได้สูงกว่า PLA
- การทนทานต่อสารเคมี: สามารถใช้กับงานที่ต้องสัมผัสกับน้ำมันหรือสารเคมีบางชนิดได้
- การใช้งาน: เหมาะสำหรับชิ้นส่วนที่ต้องรับแรงกระแทก, อุปกรณ์สำหรับใช้งานจริง (End-Use Parts), ชิ้นส่วนยานยนต์, และเคสอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
- ข้อควรพิจารณา: การพิมพ์ด้วย ABS ต้องใช้ฐานพิมพ์ทำความร้อนและตู้ครอบเพื่อป้องกันการบิดงอ (Warping) และมีกลิ่นพลาสติกที่ต้องระบายอากาศให้ดี
3. เส้น PETG (Polyethylene Terephthalate Glycol): สมดุลที่ลงตัว
PETG เป็นเส้นใยที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับผู้ที่ต้องการคุณสมบัติที่แข็งแรงของ ABS แต่ยังคงพิมพ์ง่ายเหมือน PLA:
- ความแข็งแรง: มีความเหนียวและทนทานต่อแรงกระแทกสูง ทนทานต่อสารเคมี
- ความโปร่งแสง: คุณสมบัติเด่นที่ทำให้เหมาะกับงานพิมพ์ที่ต้องการความใส เช่น แจกัน หรือโคมไฟ
- การใช้งาน: ชิ้นส่วนทางวิศวกรรม, ภาชนะบรรจุของเหลว, ชิ้นส่วนเครื่องจักรที่ต้องรับแรงปานกลาง และงานที่ต้องการความสวยงามควบคู่ไปกับความแข็งแรง
4. เส้น Nylon (Polyamide): สุดยอดวัสดุสำหรับงานวิศวกรรม
สำหรับงานที่ต้องการความแข็งแรงและความยืดหยุ่นขั้นสูง Nylon คือตัวเลือกอันดับต้นๆ
- ความแข็งแกร่งและความยืดหยุ่น: มีความเหนียวและทนทานสูงมาก ทนต่อการเสียดสี และสามารถรับแรงบิดงอได้โดยไม่แตกหัก
- การใช้งาน: เฟือง (Gears), บานพับ (Hinges), ชิ้นส่วนเครื่องจักรกล หรืออุปกรณ์ที่ต้องทนทานต่อการสึกหรอและการใช้งานหนัก
- ข้อควรพิจารณา: ต้องจัดการกับความชื้นอย่างจริงจังเพราะ Nylon ดูดซับน้ำได้ดีมาก ซึ่งส่งผลต่อคุณภาพงานพิมพ์

