ITNews

เจาะลึก GPT-5: การก้าวกระโดดครั้งสำคัญของ OpenAI ที่จะยกระดับปัญญาประดิษฐ์สู่ยุคใหม่

ในวันที่ 7 สิงหาคม 2025 ที่ผ่านมา OpenAI ได้สร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญด้วยการเปิดตัว GPT-5 ซึ่งเป็นโมเดลภาษาขนาดใหญ่ที่ทรงประสิทธิภาพที่สุดเท่าที่เคยมีมา การเปิดตัวครั้งนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่การอัปเกรดเวอร์ชัน แต่เป็นการแสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าอย่างก้าวกระโดดของปัญญาประดิษฐ์ โดย Sam Altman CEO ของ OpenAI ได้กล่าวว่าความสามารถของ GPT-5 นั้นเทียบเท่ากับการพูดคุยกับผู้ที่จบการศึกษาระดับปริญญาเอก ซึ่งสะท้อนถึงศักยภาพในการให้เหตุผลที่ซับซ้อนและการทำความเข้าใจข้อมูลเชิงลึก

GPT-5 มีอะไรใหม่และเหนือกว่ารุ่นก่อนอย่างไร?

  1. ความสามารถในการให้เหตุผลเชิงลึก (Deeper Reasoning):
    • GPT-5 ได้รับการออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาที่ซับซ้อนมากขึ้น โดยเฉพาะในด้านการเขียนโค้ด คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และการเงิน
    • มีการใช้เทคนิคการประมวลผลแบบใหม่ที่เรียกว่า “Thinking” และ “Pro” ซึ่งช่วยให้โมเดลสามารถใช้พลังประมวลผลที่มากขึ้นเพื่อคิดวิเคราะห์ปัญหาแบบหลายขั้นตอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    • ความสามารถนี้ทำให้สามารถสร้างโค้ดที่สมบูรณ์แบบได้มากขึ้น รวมถึงการอธิบายเหตุผลเบื้องหลังการตัดสินใจในแต่ละขั้นตอน
  2. ความแม่นยำและลดการหลอน (Reduced Hallucinations and Improved Accuracy):
    • ปัญหาหลักของ AI รุ่นก่อนหน้าคือการสร้างข้อมูลที่ไม่เป็นจริง (Hallucination) แต่ GPT-5 ได้รับการฝึกฝนมาอย่างเข้มข้นเพื่อลดปัญหานี้
    • ผลการทดสอบแสดงให้เห็นว่า GPT-5 มีโอกาสสร้างข้อมูลที่ผิดพลาดน้อยกว่า GPT-4o ถึง 45% ทำให้การตอบสนองมีความน่าเชื่อถือสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
  3. ความสามารถแบบ Multimodal ที่เป็นเอกภาพ:
    • แม้ว่า GPT-4o จะมีความสามารถแบบ Multimodal (ประมวลผลทั้งข้อความและรูปภาพ) แต่ GPT-5 ได้ยกระดับความสามารถนี้ให้เป็นเอกภาพมากขึ้น
    • ผู้ใช้สามารถป้อนข้อมูลทั้งในรูปแบบของข้อความและรูปภาพพร้อมกันเพื่อให้ GPT-5 วิเคราะห์ได้อย่างเชื่อมโยงกัน เช่น การให้โค้ดและภาพหน้าจอโปรแกรมเพื่อขอให้แก้ไขข้อผิดพลาด
  4. ความสามารถเชิง Agentic:
    • GPT-5 มีความสามารถในการทำงานแบบ Agentic ซึ่งหมายถึงการวางแผนและดำเนินการหลายขั้นตอนเพื่อบรรลุเป้าหมายที่ซับซ้อน
    • ตัวอย่างการสาธิตแสดงให้เห็นว่าผู้ใช้สามารถสั่งให้ GPT-5 สร้างเกมง่ายๆ ได้ตั้งแต่ต้นจนจบ โดยโมเดลจะสร้างโค้ดส่วนต่างๆ, ส่วนติดต่อผู้ใช้ (UI), และฟังก์ชันการทำงานที่จำเป็นทั้งหมด
  5. ประสิทธิภาพและความเร็วที่เพิ่มขึ้น:
    • นอกจากความสามารถที่เพิ่มขึ้นแล้ว GPT-5 ยังมีการปรับปรุงประสิทธิภาพ ทำให้การตอบสนองเร็วขึ้น โดยเฉพาะในงานที่มีความซับซ้อน
    • มีโมเดลย่อย (Model Variants) ที่แตกต่างกัน เช่น GPT-5 mini และ GPT-5 nano สำหรับการใช้งานที่ต้องการความเร็วสูงและค่าใช้จ่ายต่ำ

ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมและผู้ใช้งาน:

การมาถึงของ GPT-5 คาดว่าจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อหลายอุตสาหกรรม โดยเฉพาะในวงการการเขียนโค้ด การวิจัย และการสร้างสรรค์เนื้อหา GPT-5 จะช่วยให้ผู้ใช้งานทั่วไปสามารถเข้าถึงความสามารถระดับผู้เชี่ยวชาญได้ง่ายขึ้น ทำให้เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการเรียนรู้และทำงาน นอกจากนี้ยังมีการนำ GPT-5 ไปผนวกรวมกับผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของ Microsoft เพื่อยกระดับความสามารถของ Copilot ให้ฉลาดล้ำยิ่งขึ้น

แหล่งที่มา: